ผู้เขียนรู้สึกแปลกใจมากว่า ทุกวันนี้มีคนเขียนเข้ามาสอบถามเรื่องนี้เป็นประจำแทบทุกวัน ซึ่งทำให้ผู้เขียนเข้าใจได้ทันทีว่าลูกค้ายังไม่มีความเข้าใจในเรื่องของวันหมดอายุที่ดีพอ จึงทำให้เกิดความรู้สึกที่เสียดาย และไม่กล้าทิ้งอาหารที่หมดอายุซึ่งผู้เขียนขอให้ข้อมูลเกี่ยวกับวันหมดอายุที่ถูกต้องเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจดังนี้
เข้าใจธรรมชาติของอาหาร
โดยธรรมชาติของอาหารแล้วจะไม่มีสิ่งใดที่สามารถอยู่ได้ตลอดกาล แต่คุณสมบัติของอาหารนั้นจะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาทุกวัน ไม่ว่าเราจะใช้เทคโนโลยีส์ใดๆ มาช่วยก็ตาม อาทิเช่น การสเตอริไรซ์ การพาสเจอร์ไรซ์ การใช้วัตถุถนอมอาหาร หรือแม้แต่เทคโนโลยีส์บรรจุภัณฑ์ก็ตาม วิธีการเหล่านั้นจะมีผลเพียงแค่ช่วยประวิงเวลาของการเสื่ิอมคุณสมบัติของอาหารออกไปเท่านั้น ซึ่งการเสื่อมคุณสมบัติของอาหารบางชนิดจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อาทิเช่นอาหารจำพวกนม หรือ อาหารสด แต่อาหารบางชนิดก็อาจจะใช้เวลานานนับปี เช่นอาหารอบแห้ง อาหารกระป๋อง ฯลฯ
การเสื่อมสภาพของอาหารสามารถแสดงออกได้จาก สี กลิ่น รส และเนื้อสัมผัส ของอาหาร ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยขึ้นอยู่กับลักษณะของอาหารนั้นๆ และปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเสื่อมคุณสมบัติของอาหารได้แก่ ความสะอาด และการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ในอาหาร ส่วนประกอบของน้ำในอาหาร ความชื้น แสง อากาศ อุณหภูมิ ฯลฯ
ตัวอย่างของการเสื่อมคุณสมบัติ หรือ เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติ
แต่ทั้งนี้ในอุตสาหกรรมอาหารนั้นการเสื่อมคุณสมบัติ หรือ การเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของอาหาร ไม่ใช่เรื่องในเชิงลบเสมอไป เพราะอาหารหลายๆ ตัวก็มากจากการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติ และเกิดการหมักดอง และ ย่อยสลาย อาทิเช่น อุตสาหกรรมน้ำปลา ปลาร้า ไวน์ โยเกิร์ต ฯลฯ
ทำไมต้องมีวันหมดอายุ
คำตอบง่ายๆ เลย คือ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคได้รู้ และ ตัดสินใจได้ว่าควรบริโภคอาหารดังกล่าวหรือไม่ เนื่องจากอาหารทุกอย่างมีอายุในการบริโภคตามที่ได้อธิบายไปแล้วข้างต้น และถ้าหากจะว่ากันตามตัวบทกฎหมายแล้ว มันคือข้อกำหนดที่ผู้ผลิตอาหารพึงต้องปฎิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ ๓๘๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ เรื่อง การแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ
โดยทั่วไปการบอกวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์อาหารจะมี 2 แบบ คือ ควรบริโภคก่อน (Best Before) และ วันหมดอายุ (Expired Date) ซึ่งผู้ผลิตอาหารสามารถใช้ได้ทั้ง 2 แบบ และนำพามาซึ่งความน่าปวดหัวสำหรับผู้บริโภค เพราะแยกไม่ออกว่านิยามของทั้งสองคำนี้แตกต่างกันอย่างไร
วันหมดอายุ (expiry date หรือ expiration date อาจย่อว่า EXP หรือ Exp. date) หมายถึง วันที่ ซึ่งกำหนดแน่นอนสำหรับชุดผลิตภัณฑ์แต่ละชุด ที่เก็บรักษาอย่างดีในสภาวะที่กำหนดบนฉลากอาหารและยังไม่เปิดใช้ หลังจากวันที่หมดอายุ ผลิตภัณฑ์จะมีคุณภาพ เช่น สี กลิ่นรส เนื้อสัมผัส คุณค่าทางโภชนาการ ปริมาณจุลินทรีย์ ด้อยลงกว่าข้อกำหนดของมาตรฐานที่ต้องการ ไม่ควรนำมาบริโภค [Ref#1]
วันที่ควรบริโภคก่อน (best before date , best before อาจใช้ best by หรือคำย่อว่า BB) หมายถึง วันที่ผลิตภัณฑ์อาหารมีสภาพสดและคุณภาพดีเยี่ยมก่อนวันที่ตามที่ระบุไว้ การพิมพ์วันที่ควรบริโภคก่อน ทำได้ด้วยเครื่องพิมพ์รหัส (coder) โดยจะทำไปบนบรรจุภัณฑ์ หรือทำบนพื้นผิวของอาหารโดยตรง เช่น บนเปลือกไข่ [Ref#2]
พริกแกงที่หมดอายุยังรับประทานได้หรือไม่
หากเราจะบริโภคหลังจากวันหมดอายุที่เขาระบุไว้ อันที่จริงมันไม่มีอันตราย เพราะในเรื่องของการทำการศึกษา ว่า หมดอายุเมื่อไหร่ หรือว่าบริโภคก่อนเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ เขาจะมีค่าความปลอดภัย (Safety factor) ของอาหารแต่ละชนิดหลังวันดังกล่าวอยู่แล้ว แต่ตามกฎหมายให้ยึดถือตามวันที่ระบุบนฉลากว่าเป็นวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เป็นสำคัญ แต่ทั้งนี้การที่จะพิจรณาว่าควรรับประทานต่อไปหรือไม่ นั้นขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจของลูกค้าเอง เนื่องจากผู้ผลิตไม่สามารถบอกได้ว่าในระหว่างระยะเวลาที่ลูกค้าซื้อสินค้ามาเก็บเอาใว้นั้น สินค้าได้ผ่านกระบวนการจัดเก็บมาอย่างไรบ้างซึ่งอาจจะมีผลต่อปัจจัยของความปลอดภัย
ดังนั้นสิ่งที่เราพอจะแนะนำได้ก่อนการบริโภคก็คือ ให้สังเกตดังต่อไปนี้
|
![]() |
![]() |
![]() |
ดำเนินการจัดจำหน่ายโดย บจก.ธารทอง มาร์เก็ตติ้ง
23/367 ซอยประขาอุทิศ 76 ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร 10140
ดำเนินการผลิตโดย บจก.ภาเบญ ฟู้ดส์
151 หมู่7 ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57000