แกงเทโพ เป็นอาหารไทยอีกชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารเจที่ให้รสชาติครบรสคือ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม และอาจจะมีเผ็ดนิดๆ ติดปลายลิ้นมา ซึ่งจะทำให้การรับประทานอาหารเจไม่เป็นที่น่าเบื่อ ถึงแม้ว่าการกินเจจะเป็นการฝึกให้เราลดละการยึดติดในรสอาหารก็ตาม แต่อาหารเจส่วนใหญ่ที่เป็นอาหารจีน มักจะประกอบด้วยแป้ง และไขมันในปริมาณมาก ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีหากรับประทานมากเกินไป ดังนั้นอาหารไทยจึงเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางเลือกหนึ่ง เพราะนอกจากจะให้รสชาติที่คุ้นลิ้นแล้ว ยังให้คุณค่าทางอาหารที่ครบหมู่อีกด้วย และการปรุงก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร
ส่วนประกอบของแกงเทโพเจ
- โปรตีนเกษตร หรือจะใช้เห็ดโอรินจิหั่นเป็นชิ้นๆ ก็ได้
- กะทิ
- แกงเทโพเจ
- มะกรูดผ่าครึ่ง
- ผักบุ้งไทยหั่นท่อน
- น้ำตาลปี๊บ
- ซีอิ้วขาว
- น้ำมะขามเปียก

วิธีทำแกงเทโพเจ
- นำพริกแกงแม่น้อยลงผัดในน้ำมันพืช จนสุกหอม แล้วจึงค่อยเติมหัวกะทิลงไป
- รอจนน้ำกะทิแตกมัน จึงใส่โปรตีนเกษตร และเห็ดลงไป
- ใส่หัว และหางกะทิที่เหลือ รอจนเดือดจึงตามด้วยผักบุ้ง และมะกรูดผ่าครึ่ง
- ปรุงรสด้วย น้ำมะขาม น้ำตาลมะพร้าว และซีอิ๊วขาวตามชอบให้ออกรสเปรี้ยวหวานนำ และตามด้วยเค็ม
สำคัญมาก
-
แกงเทโพให้ใช้ พริกแกงคั่ว ไม่ใช่พริกแกงเผ็ดตามที่หลายๆ คนเข้าใจ เพราะพริกแกงคั่วจะเหมาะกับอาหารที่ออกรสเปรี้ยวเนื่องจากไม่มีส่วนผสมของเครื่องเทศ ส่วนพริกแกงแดง หรือ แกงเผ็ดนั้นจะมีส่วนผสมของเทรื่องเทศจำพวกเมล็ดผักชี ยี่หร่า ฯลฯ ผสมอยู่ ซึ่งกลิ่นของเครื่องเทศจะไปด้วยกันไม่ได้กับอาหารที่ออกรสเปรี้ยว
-
ใช้น้ำมะขาม จะได้รสชาติที่เปรี้ยวกลมกล่อมกว่าการใช้มะนาวที่มีรสเปรี้ยวจี๊ด
-
น้ำตาลมะพร้าว จะให้ความหวานหอม และกลมกลืนไปกับกลิ่นกะทิที่แตกต่างจากน้ำตาลทราย
-
หากใช้น้ำมันมะพร้าว ผัดพริกแกงก็จะช่วยให้พริกแกงมีความหอมขึ้นมากกว่าการผัดด้วยน้ำมันพืช หรือ กะทิสำเร็จรูป