แกงสะแล อาหารเหนือที่สามารถหารับประทานได้ตามฤดูกาลเท่านั้น และสะแลเองก็เป็นพืชป่าพื้นบ้านที่สามารถหารับประทานได้ในบางพื้นที่เท่านั้น ซึ่งในระยะหลังมานี้อาจจะมีราคาสูงขึ้นเนื่องมาจาการบุกรุกทำลายป่า สำหรับแกงสะแลนั้นมีวิธีการทำที่อาจจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ของภาคเหนือตอนบน แต่โดยรวมหลักแล้วสามารถแบ่งเป็น 2 วิธีใหญ่ๆ คือแกงแบบที่ใส่ปลาร้า และวิธีที่ไม่ใส่ปลาร้า ส่วนเนื่อสัตว์ที่นิยมนำมาปรุงร่วมกับดอกสะแลก็จะมี 2 อย่างคือ กระดูกหมู หรือ หมูสามชั้น และ ปลาแห้ง แต่ไม่ว่าจะทำในแบบใด นั้นส่วนประกอบก็จะไม่หนีกันเท่าไร ซึ่งแกงสะแลจะเป็นแกงที่ทำได้ง่ายมาก เรามดูวิธีการปรุงดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบ
สะแล 200 กรัม
กระดูกหมู 200 กรัม หรือ ปลาแห้ง 200 กรัม
มะเขือเทศขนาดเล็ก ประมาณ 6-8 ลูก
สำหรับผู้ที่รับประทานปลาร้า
น้ำปลาร้า ตามชอบ
วิธีทำ
- เติมน้ำลงในหม้อ ใส่กระดูกซี่โครงหมู หรือ หมูสามชั้น หรือ ปลาแห้ง ลงไปแล้วต้มให้เดือด
- ใส่น้ำพริกน้ำเงี้ยวลงไป 1 ซอง คนให้พริกแกงละลายดีแล้วจึง ตามด้วยดอกสะแล และ มะเขือเทศ
- รอจนน้ำแกงเดือดอีกรอบ จึงปรุงรสด้วยนำปลาตามชอบ
หมายเหตุสำหรัผู่ที่รับประทานปลาร้า ก็มีวิธีการดังนี้
- เติมน้ำลงในหม้อ ใส่กระดูกซี่โครงหมู หรือ หมูสามชั้น หรือ ปลาแห้ง ลงไปแล้วต้มให้เดือด
- เติมน้ำปลาร้าลงไปตามชอบ และ ใส่น้ำพริกแกงคั่วลงไป 1 ซอง คนให้พริกแกงละลายดีแล้วจึง ตามด้วยดอกสะแล และ มะเขือเทศ
- รอจนน้ำแกงเดือดอีกรอบ จึงปรุงรสด้วยนำปลาตามชอบ
แกงสะแลจะมีรสชาติที่เค็มนำ อมเปรี้ยวหน่อยๆ จากมะเขือเทศ และอาหารเหนือจะไม่นิยมใส่น้ำตาลลงไปในอาหาร ในบางพื้นที่ก็จะใส่น้ำมะขามลงไปด้วยเพื่อให้ออกเปรี้ยวนำ ก็จะกลายเป็นแกงส้มสะแล ที่ให้รสชาติที่อร่อยไปอีกแบบหนึ่ง