ความเชื่อเรื่องมังสวิรัติของคนอินเดียโบราณ - เรื่องกินเจ หรือมังสวิรัตินี้ “คึกฤทธิ์ ปราโมช” เล่าย้อนไปถึงยุคพระเจ้าอโศกมหาราช แห่งชมพูทวีปเลยทีเดียว ท่านเล่าถึงเรื่องคติความเชื่อการกินของคนอินเดียโบราณ อันเนื่องมาจาก "พระเจ้าอโศกมหาราช" ดังมีใจความต่อไปนี้ จะกล่าวถึงพระเจ้าอโศกต่อไป เมื่อทรงประกาศออกไปมิให้ราษฎรกินเนื้อสัตว์ ให้กินแต่ข้าว ถั่ว งา ผัก และผลไม้แล้ว ก็ต้องมีมาตรการที่จะคอยบังคับให้ราษฎรปฏิบัติตามนั้นระบอบการปกครองของพระเจ้าอโศกนั้นคือระบอบสายลับ ซึ่งเรียกว่าสปัศ (Spies ในภาษาอังกฤษ) สปัศนี้มีจำนวนมากและออกท่องเที่ยวไปในทุกทิศานุทิศในราชอาณาจักรของพระเจ้าอโศก เมื่อเห็นผู้ใดกระทำผิดพระราชโองการในเรื่องใด ๆ ก็ตาม ก็จะจดจำชื่อเสียงเรียงนามและบ้านที่อยู่กราบบังคมทูลเป็นทางลับมายังพระเจ้าอโศก พระองค์ก็จะตรัสใช้ให้ราชบุรุษไปเอาตัวผู้นั้นมาชำระแล้วลงราชทัณฑ์ ทุกคนก็ต้องคอยระวังตัวมิให้ตนเองผิดพระราชกำหนดกฎหมาย หรือแม้แต่พระราชนิยมอยู่เป็นนิจ
ในเรื่องกินเจนี้ เมื่อได้ประกาศเป็นพระราชโองการออกไปแล้ว พวกสปัศก็คงจะได้ออกติดตามสอดส่องให้คนทั่วไปปฏิบัติ และคนทั้งปวงก็เลิกกินเนื้อสัตว์ กินแต่ผักอย่างเดียวเพราะเกรงพระราชอาญา กว่าพระเจ้าอโศกจะเสด็จสวรรคต คนทั่วไปก็คงจะติดการกินเจเป็นสันดานและเหม็นเนื้อสัตว์เสียแล้ว และการกินเจนั้นก็แพร่ออกไปทั่วประเทศเพราะศาสนาฮินดูก็ถือหลักอวิหิงสาเช่นเดียวกัน ต่อมาพวกแขกมะหง่น (Mogul) เข้ามายึดครองภาคเหนือไว้ได้ มีพระราชาธิราชผู้เป็นมุสลิมปกครอง การกินเนื้อสัตว์ก็เกิดขึ้นใหม่และแพร่หลายออกไป โดยเฉพาะในหมู่ชาวอินเดียที่หันมานับถืออิสลาม
คนอินเดียทุกวันนี้ คนในภาคเหนือของอินเดียจึงกินเนื้อสัตว์ แต่คนส่วนใหญ่ในภาคกลางและภาคใต้นั้นยังกินเจ ยกเว้นพราหมณ์ เพราะพราหมณ์ในรัฐกัษมีรนั้น กินเนื้อแพะเนื้อแกะและไข่ได้ เห็นจะมีคนเอาแพะแกะมาฆ่าที่หน้าเทวสถานที่พราหมณ์ดูแลอยู่วันละมาก ๆ เพื่อสังเวยเทพเจ้า และอาจมีไข่บ้างก็ได้ เทพเจ้าของฮินดูนั้นยังฉันเนื้อสัตว์ ส่วนพราหมณ์ที่อยู่ชายฝั่งทะเลตะวันตกของอินเดีย เช่น รัฐเอลาระ และที่อยู่รอบ ๆ ก้นอ่าวบังกะหล่านั้นกินปลา เรียกเสียว่า “ผลไม้ทะเล” เพราะฉะนั้นพราหมณ์ไทยที่กินเนื้อสัตว์เช่นคนไทยทั่วไปและกินกระยาบวชตามกาลนั้น มิได้ผิดลัทธิแต่อย่างใดเลย ไม่น่าตำหนิติเตียน
คนส่วนใหญ่ของอินเดียที่มิใช่พราหมณ์ คือคนที่อยู่ในวรรณะ กษัตริย์ แพศย์ และศูทรนั้นกินเจล้วนชั่วแต่ว่ากินอาหารจากสัตว์ เช่น น้ำนม เนยใส (ฆี) เนยข้น (Butter) และเนยแข็งได้ และกินเอามาก ๆ เสียด้วย เพราะฉะนั้นจึงกินเจแล้วอ้วนพีดี ไม่ผ่ายผอมเหมือนหลวงจีนที่ฉันเจจีน ไม่ฉันนมเนย แม้แต่หอมกระเทียม เพราะท่านถือว่าหอมกระเทียมนั้นเสริมราคะ
ที่มา : ผู้เขียนนิรนาม เป็นบทความที่ส่งต่อๆ กันมาทาง Line โปรดอ่านด้วยวิจารณญานของแต่ละท่าน เนื่องจากทางเราเห็นว่ามีประเด็นที่น่าสนใจอยู่