ช่วงนี้ภาคเหนือเป็นฤดูหนาว จะมีผักออกมามากมายหลายชนิดให้เลือกซือหา หากใครชอบรับประทานอาหารจำพวกผักแล้วละก้อ ไม่ผิดหวัง หัวผักกาด หรือ หัวไชเท้า หรือภาษาอังกฤษคือ Radish ก็เป็นพืชผักอีกชนิดหนึ่งที่นิยมปลูกกันมาทางภาคเหนือ โดยทั่วไปแล้วเจ้าหัวผักกาดนี้จะมีอยู่ด้วยกันหลายสีตามไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีแดง สีม่วง สีชมพู และขนาดก็จะแตกต่างกันออกไปตามสายพันธุ์แยกย่อย
หัวผักกาด เป็นพืชตระกูลผักกาด เป็นพืชผักที่อุดมด้วยคุณค่าทางอาหารสูง หัวไช้เท้ามีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน และได้มีการแพร่หลายไปยังประเทศต่าง ๆ ซึ่งหัวผักกาดสดสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลายชนิดไม่ว่าจะเป็นอาหารจีน หรือ อาหารไทย อาทิเช่น ขนมหัวผักการ การนำมาทำเป็นน้ำซุป แกงจืด หรือ แม้กระทั่ง แกงส้ม เป็นต้น หัวผักกาดนอกจากจะอร่อย ให้คุณค่าทางอาหารที่มีประโยชน์ แล้วยังหาซื้อได้ง่าย มีราคาถูก มีตลอดทั้งปี แต่จะเยอะในช่วงฤดูหนาวซึ่ง มักจะมีการนำผลผลิตที่มีมากไปแปรรูปเป็น หัวไช้โป๊ว ซึ่งอาหารอีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมรับประทานกันมาก อีกทั้งยังสามารถเก็บไว้บริโภคได้นานทั้งปี หัวไชเท้าดองมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ หัวไชโป้วดองเค็ม และ หัวไชโป้วหวาน อาหารที่นิยมใช้หัวไชโป๊วมาเป็นส่วนประกอบได้แก่ หัวไชโป๊วดองเค็มผัดกับไข่ ไข่เจียวไชโป๊ว และในหน้าร้อนคนไทยนิยมรับประทานข้าวแช่ ซึ่งก็มีหัวไชโป๊วผัดหวานเป็นเครื่องเคียง นอกจากนี้หัวไชโป๊วยังเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของ ผัดไท อีกด้วย
การแปรรูปผักกาดหัวให้เป็นผักกาดเค็ม ผักกาดดองหวานที่เรียกว่า หัวไชโป๊ว เป็นวิธีถนอมอาหารอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เกษตรกรไม่จำเป็นต้องรีบ ขายหัวผักกาดสดให้แก่พ่อค้าไปในราคาถูก หัวผักกาดเค็มเป็นอาหารอีก ชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมรับประทานกันมาก และยังสามารถเก็บไว้บริโภคได้ ทั้งปีหลังจากที่เหลือจากการจำหน่ายแล้ว
หัวไชเท้า/ผักกาดหัว แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มยุโรป (Radish) นิยมปลูกและบริโภคในเขตอบอุ่น เช่น ยุโรป อเมริกา ต้องการอากาศเย็นในการเจริญของราก ประมาณ 15ºC มีช่วงการเก็บเกี่ยวสั้น 20-25 วัน ส่วนของรากมีขนาดเล็ก สีแดงเข้ม บางชนิดมีสีดำ แต่เนื้อภายในจะมีสีขาวหรือสีแดง
2. กลุ่มเอเชีย (Chinese Radish หรือ Japanese Radish) ปลูกมากแถบเอเชีย ส่วนของรากมี
ขนาดใหญ่ รูปร่างแบบกลมและยาว ขึ้นอยู่กับพันธุ์ ปกติผิวของรากมีสีขาว แต่บางพันธุ์อาจมีสีแดงเนื้อภายในมีสีขาว อายุการเก็บเกี่ยวยาวกว่ากลุ่มแรกคือพันธุ์เบาประมาณ 40-50 วัน และพันธุ์หนักประมาณ 60-70 วัน สามารถแยกเป็น 2 ชนิด คือ
– พันธุ์แบบญี่ปุ่น (Japanese Type) ลักษณะเด่น คือ ขอบใบมีลักษณะหยักลึก มีจำนวนใบมากน้อยขึ้นอยู่กับพันธุ์ มีอายุทั้งสองปี และปีเดียว ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์หนักหรือปานกลาง
-พันธุ์แบบจีน (Chinese Type) ลักษณะเด่น คือ ขอบใบเรียบ ไม่มีรอยหยัก ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์เบา และมีอายุปีเดียว
ประโยชน์
หัวไชเท้า ตามตำราจีนนั้นถือว่ามีฤทธิ์เป็นยาเย็น แต่มีรสเผ็ดร้อน ซึ่งถือว่าผักชนิดนี้มีประโยชน์อย่างมากต่อการทำงานของปอด กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ ช่วยดับกระหายคลายร้อน แก้อาการไอเรื้อรัง มีเสมหะมาก อาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก ซึ่งหากรับประทาน หัวไชเท้า ไปสักระยะหนึ่งแล้วอาการต่างๆเหล่านี้ก็จะบรรเทาอาการให้ดีขึ้น เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาเย็น จึงไม่ควรที่จะรับประทานหัวผักกาดกับยาหรือสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อนอย่างโสมหรือตังกุย เพราะมันอาจจะไปสะเทินฤทธิ์กันเอง ทำให้โสมหรือตังกุยออกฤทธิ์ไม่ดีเท่าที่ควร แต่อย่าเข้าใจผิดไปว่าหัวผักกาดนี้มันจะไปทำลายฤทธิ์ของยาหรือสมุนไพรอื่นๆทั้งหมด และการรับประทานหัวผักกาดนั้นจะรับประทานสุกหรือดิบก็ได้ แต่การรับประทานแบบดิบๆนั้นจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า
สำหรับหัวผักกาดแดง มีคุณค่าทางสารอาหารอย่างมากมาย มีเบตาแคโรทีนสูง มีไนเตรทสูง ทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ทำให้ความดันโลหิตต่ำลง จัดเป็นยาบำรุงทางธรรมชาติเลยก็ว่าได้ เวลาออกกำลังกาย หรือทำงานในไร่สวนมาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำหัวผักกาดแดง จะทำให้รู้สึกหายเหนื่อยเร็วขึ้น ถ้าอยากได้สารอาหารเต็มที่ แนะนำให้กินสด รสชาดและกลิ่นฉุน คล้ายผักกาดทั่วไป ล้างให้สะอาดแล้วนำมารับประทานจะดีที่สุด
|
![]() |
![]() |
![]() |
ดำเนินการจัดจำหน่ายโดย บจก.ธารทอง มาร์เก็ตติ้ง
23/367 ซอยประขาอุทิศ 76 ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร 10140
ดำเนินการผลิตโดย บจก.ภาเบญ ฟู้ดส์
151 หมู่7 ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57000