น้ำปูคืออะไร?

น้ำปู หากเป็นชาวเหนือแล้วไม่มีใครไม่รู้จักน้ำปู (ออกเสียง "น้ำปู๋") เป็นอาหารดั้งเดิมของชาวล้านนา รวมไปถึงชาวลาวในภาคเหนือด้วย ซึ่งเราสามารถหาซื้อน้ำปูในประเทศลาวได้ง่ายมากมีในแทบจะทุกตลาดของลาวตอนเหนือ แม้กระทั่ง แขวงพงสาลี ก็ยังมีน้ำปูขาย สำหรับชาวลาวหลวงพระบางแล้วก็จะนิยมนำน้ำปูมาใส่ในส้มตำด้วย แต่สำหรับชาวไทยนั้นก็จะรู้จักวิธีการรับประทานน้ำปูเฉพาะในเขตภาคเหนือเท่านั้น ดังนั้นจึงทำให้การหาซื้อน้ำปูทำได้ลำบากสำหรับภาคอื่นๆ
น้ำปู คืออะไร? น้ำปูใช้เป็นเครื่องปรุงรสอาหาร ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ "กะปิ" ของภาคกลาง และ ภาคใต้ ซึ้งทำมาจากกุ้งหมักกับเกลือ แต่น้ำปูของทางภาคเหนือจะสะอาดกว่ามากเพราะผ่านการต้มเคี่ยวโดยใช้เวลานานมาก น้ำปูนั้นทำมาจากปูนา และต้องใช้ปูที่ยังมีชีวิตเท่านั้นไม่เช่นนั้นน้ำปูจะมีกลิ่นเหม็น ซึ่งต้องนำปูมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำไปโขลกกับ ใบขิ้น และ ใบตะใคร้ ให้ละเอียด แล้วบีบกรองเอาน้ำออกเพื่อนำไปหมักทิ้งใว้จนขึ้นฟองก่อนนำไปเคี่ยวกับเกลือจะมีลักษณะเป็นสีดำ เหนียว น้ำปูนิยมนำน้ำปูมาตำน้ำพริก เรียกว่า น้ำพริกน้ำปู ใช้เป็นเครื่องปรุงอาหารเหนือหลายเมนู เช่น ยำหน่อไม้ แกงหน่อไม้ ตำส้มโอ ตำกระท้อน
ที่มา และ แหล่งผลิตน้ำปูกับประเด็นชวนให้คิดคือ น้ำปูนิยมทำกันในฤดูฝน ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ปีหนึ่งทำครั้งเดียวเท่านั้น เพราะน้ำปูในฤดูนี้จะให้รสชาติที่อร่อย หากทำนอกฤดูไปแล้วก็จะได้รสชาติที่แตกต่างออกไป ซึ่งอาจจะเป็นเพราะความสมบูรณ์ของอาหารในฤดูอื่นๆมีน้อยกว่าฤดูฝนจึงทำให้ตัวปูขาดความสมบูรณ์ไปด้วย การทำน้ำปู๋นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องอิงอยู่กับการปลูกข้าวซึ่งต้องรอต้นกล้าข้าวแตกใบเขียว ปูนาก็เริ่มเจริญพันธุ์ และออกลูกพร้อมๆ กับต้นข้าว ในช่วงเวลากลางวันปูจะหนีร้อนจากนาข้าวขึ้นมาอยู่บนคันนา ซึ่งเมื่อจับปูมาได้แล้วก็จะล้างน้ำให้สะอาด ปัจจุบันนี้ปูนาจะเริ่มหายากมากขึ้น เนื่องจากการทำนาแต่ละปี ชาวนาใช้ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลงกันมากทำให้ปูสูญหายไปจากท้องนาเป็นจำนวนมาก แม้ว่ามาในระยะหลังนี้จะมีการทำฟาร์มเพาะเลี้ยงปูนาได้บ้างแล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ดังนั้นการเลือกที่มาของวัตถุดิบจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะหากเราไม่ทราบที่มาของวัตถุดิบก็เสี่ยงต่อการรับประทานน้ำปูที่ปนเปื้อนสารเคมีทางการเกษตร
แหล่งผลิตก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่จะบอกว่าน้ำปูจะอร่อย หรือมีคุณภาพดีหรือไม่เพราะอาหารเหนือนั้นจะมีสูตรการผลิตที่แตกต่งกันออกไปตามท้องถิ่นเพราะน้ำปูถือว่าเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ดังนั้นรสชาติอาจจะไม่เหมือนกันเสียเลยที่เดียว แหล่งลิตที่สำคัญและมีชื่อเสียงได้แก่
- จังหวัดเชียงราย (อ.แม่จัน และ อ.พาน)
- จังหวัดพะเยา (อ.ดอกคำใต้)
- จังหวัดลำปาง (อ.แจ้ห่ม)
- จังหวัดเชียงใหม่ (อ.แม่แจ่ม และ อ.แม่สา)
วิธีทำน้ำปู
กระบวนการผลิตน้ำปูนั้นมีวิธีการทำเพียงไม่กี่ขั้นตอน ที่รู้สึกได้ว่าทำได้ง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ในความเป็นจริงแล้วแม้มีเพียงไม่กี่ขั้นตอนก็จะมีความพิถีพิถันละเมียดละมัยในการทำน้ำปูอยู่พอสมควร เพราะหากไม่มีความละเอียด และ ระมัดระวังแล้วจะทำให้น้ำปูมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และ เก็บได้ไม่นาน ซึ่งจุดที่มีความสำคัญมากที่สุดคือการคัดสรรหาวัตถุดิบที่สะอาด สด ใหม่ และต้องใช้ปูที่มีชีวิตเท่านั้น หากใช้ปูตายจะทำให้น้ำปูมีกลิ่นเหม็น และจุดที่ยากที่สุดของการทำน้ำปูก็คือ การเคี่ยวน้ำปูที่ต้องใช้เวลานานมาก การเคี่ยวน้ำปูต้องหมั่นคนจะกระทั่งเหนียวหนืดซึ่งเวลาที่น้ำปูเดือดปุดๆ ก็จะทำให้สะเก็ดน้ำปูกระเด็นโดนแขนของผู้ที่ทำการคนอีกด้วย อีกทั้งหากทำกันในชุมชนต้องพึงระวังเรื่องการแพ้กลิ่นของน้ำปูให้ดี เพราะบางคนจะเกิดอาการแพ้กลิ่นของน้ำปู
ส่วนผสม
1.ปูนา3กิโลกรัม
2.ใบตะไคร้ซอย6ต้น
3.ใบขมิ้นซอย2ถ้วย
4.เกลือเม็ด2ช้อนโต๊ะ
สูตรน้ำปู - จะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ บางที่จะใส่ใบฝรั่ง ใบมะกอก ใยย่านาง ฯลฯ ตามสูตรของใครของมัน
วิธีทำ
1. นำปูมาล้างให้สะอาด โดยแช่น้ำไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้โคลนหลุดออก
2. ปูที่ล้างสะอาดแล้วนำไปตำกับตะไคร้ ขมิ้น ปั่นให้ละเอียด แล้วกรองเอาแต่น้ำใส่ในภาชนะหมักทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้รสชาติดีขึ้น
3. นำไปเคี่ยวบนไฟอ่อนๆ พร้อมกับเครื่องปรุงอื่นๆ ที่ระบุไว้ข้างต้น เคี่ยวไปจนกว่าน้ำจะแห้งเหนียวข้นจึงยกลง การเคี่ยวนั้นห้ามใช้ไฟแรงโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้น้ำปูมีกลิ่นคาว
4. เมื่อยกลงแล้วทิ้งไว้ให้เย็น จึงตักใส่ภาชนะที่สะอาด เช่นกระป๋องพลาสติก หรือขวดปากกว้างที่มีฝาปิดมิดชิดสามารถเก็บไว้รับ ประทานได้นาน และนำไปจำหน่ายในท้องตลาดได้
