แกงเทโพ คือแกงกะทิของทางภาคกลางที่จัดอยู่ในกลุ่มของแกงคั่ว ประเภทแกงคั่วส้มทั้งหลาย มีผักบุ้ง และหมูสามชั้นเป็นส่วนประกอบหลัก เมนูนี้เป็นเมนูประจำบ้านของหลายครอบครัว เพราะเป็นอาหารที่ทำได้ไม่ยาก และประหยัดด้วย นอกจากนี้ร้านขายข้าวแกงหลายๆ ร้านก็นิยมทำเมนูนี้ประดับร้านเอาใว้เพราะให้รสชาติค่อนข้างครบรสคือ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม และเผ็ดหน่อยๆ แต่เวลาไปรับประทานที่ร้านอาหารบางทีเราก็จะเกิดความรู้สึกว่าเครื่องไม่ค่อยจะถึง...ก็แน่หละ เพราะร้านอาหารเขาก็ต้องควบคุมเรื่องต้นทุนนี่นา อย่ากระนั้นเลยหากจะให้ได้รสชาติที่ได้ใจผู้กิน ก็ต้องทำเอง ซึ่งหัวใจหลักๆ ที่จะทำให้แกงเทโพหมูสามชั้นอร่อยถึงใจก็คือ
- พริกแกงต้องสดใหม่จากวัตถุดิบที่มีคุณภาพ
- กะทิต้องสด และ เข้มข้น เพราะเวลาที่ราดข้าวสวยร้อนๆ แล้วจะต้องติดข้าว
เอาหละเรามาดู วิธีทำแกงเทโพหมูกันดีกว่า
ส่วนประกอบ
- ผักบุ้งไทย 1 กำมือ
- หมูสามชั้น 500ก.
- พริกแกงคั่วตราแม่น้อย 80ก.
- หัวกะทิ 250-300 มล.
- มะกรูดหั่นครึ่ง
- น้ำตาลมะพร้าว
- น้ำมะขาม และน้ำปลา
วิธีทำ
- ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อยลงในกะทะ และนำพริกแกงคั่วลงผัดได้ไฟอ่อนๆ จนสุกหอม จึงค่อยๆ ใส่หัวกะทิลงไปทีละน้อย
- ผัดหมูสามชั้นลงผัดตามจนสุก และใสหางกะทิ (หรือน้ำอุ่น) ลงไป รอจนเดือด
- ใส่ผักบุ้งลงไป จนผักยุบตัว ปรุงรสด้วยนำมะขาม น้ำตาลมะพร้าว และน้ำปลา และชิมให้ได้รสตามชอบ
- ใส่หัวกะทิที่เหลือ และ มะกรูดหั่นครึ่ง ตามลงไปเพื่อให้ได้กลิ่นหอมของผิวมะกรูด
หมายเหตุ
- หมูสามชั้นให้เลือกส่วนที่ติดเนื้อมากกว่าติดมัน
- ความเปรี้ยวให้ใช้น้ำมะขาม ไม่ใช่มะนาว
- หากเลี่ยงที่จะใช้กะทิกล่องสำเร็จรูปไม่ได้ ผู้เขียนมักจะใช้น้ำมันมะพร้าวในการผัดน้ำพริกแกงแทนเพื่อให้ได้ความหอมของมะพร้าว
ตามปกติแกงเทโพจะออกรส เค็ม-เปรี้ยว-หวาน ตามด้วยมัน และเผ็ดติดปลายลิ้นนิดๆ หากได้ข้าวสวยหอมๆ ร้อนๆ ราดแกงลงไปติดข้าวร้อนๆ รับประทานกับน้ำพริกกะปิ และปลาทอด หรือ หมูหวาน ก็อร่อยจนลืมอิ่มทีเดียว