หากมองไปในตลาดตอนนี้เราจะพบว่ามีพริกแกงในตลาดมากมายหลายเจ้ามาก บางยี่ห้อก็วางตำแหน่งทางการตลาดของผลิตภัณฑ์พริกแกงเป็นพริกแกงคีโต สำหรับผู้ที่รักสุขภาพ แล้วท่านทราบใหมว่าพริกแกงคีโตคืออะไร
Keto (Ketogenic Diet) คืออะไร?
Ketogenic Diet หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า คีโต คือ รูปแบบการกินอาหารที่จำกัดคาร์โบไฮเดรต (แป้งและน้ำตาล) ในระดับที่ต่ำมาก ๆ, เน้นการบริโภคไขมันดีในปริมาณสูง และโปรตีนในปริมาณปานกลาง
หลักการทำงาน:
เมื่อร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตต่ำมาก ๆ ร่างกายจะขาดแหล่งพลังงานหลัก (กลูโคส) จึงถูกบังคับให้เปลี่ยนไปใช้พลังงานจากไขมันแทน ในกระบวนการนี้ ตับจะสลายไขมันไปสร้าง สารคีโตน (Ketone Bodies) เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานหลักแทนกลูโคส ซึ่งภาวะที่ร่างกายเข้าสู่การเผาผลาญไขมันสร้างคีโตนนี้เรียกว่า ภาวะคีโตซิส (Ketosis)
วัตถุประสงค์:
- หลัก ๆ คือการลดน้ำหนัก โดยใช้ไขมันที่สะสมไว้เป็นพลังงาน
- ในอดีตถูกคิดค้นมาเพื่อช่วยรักษาผู้ป่วยโรคลมชักบางชนิด
ความจำเป็นของ "พริกแกงคีโต"
ตามปกติแล้วเครื่องปรุงไทยส่วนใหญ่มีแป้งและน้ำตาลต่ำอยู่แล้ว แต่สำหรับผู้ที่เคร่งครัดกับการทำ Ketogenic Diet (คีโตเจนิก ไดเอท) นั้น รายละเอียดเล็กน้อยก็สำคัญเช่นกัน
น้ำตาลแฝงและคาร์โบไฮเดรตซ่อนเร้น:
- พริกแกงสำเร็จรูปทั่วไป มักมีการเติมน้ำตาล (อาจจะเป็นน้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ) หรือแป้ง (เช่น แป้งมัน แป้งข้าวเจ้า) เล็กน้อย เพื่อช่วยปรับรสชาติ ความเข้มข้น และเป็นสารกันเสีย หรือสารเพิ่มปริมาณ
- ถึงแม้จะเป็นปริมาณที่น้อยเมื่อเทียบกับซอสปรุงรสอื่น ๆ แต่สำหรับคนที่ทำคีโต ซึ่งต้องจำกัดคาร์โบไฮเดรตต่อวันให้อยู่ในระดับที่ต่ำมาก (มักจะต่ำกว่า 20−50 กรัมต่อวัน) คาร์โบไฮเดรตที่ซ่อนอยู่ในเครื่องปรุงเหล่านี้ก็อาจทำให้เกินโควต้าและทำให้ร่างกายหลุดจาก ภาวะคีโตซิส (Ketosis) ได้
สารกันเสียและสารเคมี:
- พริกแกงคีโตมักจะโฆษณาว่า ไม่ใส่ผงชูรส, ไม่ใส่สารกันเสีย, ไม่แต่งสี/กลิ่นสังเคราะห์ และใช้วัตถุดิบธรรมชาติ 100%, ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการอาหารที่ "คลีน" และจำกัดสารเคมีด้วย
ทางเลือกอื่นในการควบคุมน้ำหนัก (ที่ไม่ใช่ Keto)
Ketogenic Diet เป็นวิธีการที่เห็นผลเร็วในระยะสั้น แต่ค่อนข้างเคร่งครัดและไม่ยั่งยืนสำหรับทุกคน ปัจจุบันมีทางเลือกอื่นที่ยืดหยุ่นกว่าและสามารถทำได้ในระยะยาว เช่น:
1. Intermittent Fasting (IF)
- หลักการ: เป็นการจำกัดช่วงเวลาในการรับประทานอาหาร ไม่ได้จำกัดชนิดของอาหาร
- วิธีการ: มีหลายรูปแบบที่นิยม เช่น
- 16/8: อดอาหาร 16 ชั่วโมง และมีช่วงกิน 8 ชั่วโมง
- 5:2: กินปกติ 5 วัน และจำกัดแคลอรีอย่างมาก 2 วัน
- ข้อดี: ยืดหยุ่น ไม่ต้องงดอาหารที่ชอบ แค่จำกัดเวลา
- ข้อควรระวัง: อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น เบาหวานที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาล
2. Low-Carb Diet (โลว์คาร์บ)
- หลักการ: ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลง แต่ไม่ถึงระดับที่เคร่งครัดเหมือนคีโต (มักจะตั้งไว้ที่ประมาณ 100−150 กรัมต่อวัน)
- วิธีการ: เน้นการกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (Whole Grains), ลดน้ำตาลและแป้งขัดขาว, เพิ่มโปรตีนและไขมันดี
- ข้อดี: ทำได้ง่ายกว่า ยืดหยุ่นกว่า และยังคงได้รับสารอาหารที่หลากหลายจากคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสุขภาพ
3. Clean Eating (คลีน)
- หลักการ: เน้นการบริโภคอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปน้อยที่สุด (Whole Foods)
- วิธีการ: กินผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไขมันดี หลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูป น้ำตาล และโซเดียมสูง
- ข้อดี: เป็นการสร้างพฤติกรรมการกินเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน และได้รับสารอาหารครบถ้วน
4. Calorie Deficit (การขาดแคลอรี)
- หลักการ: บริโภคแคลอรีให้น้อยกว่าที่ร่างกายใช้ในแต่ละวัน โดยไม่จำเป็นต้องตัดอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งออกไป
- วิธีการ: คำนวณความต้องการแคลอรีต่อวัน (TDEE) และวางแผนการกินให้ได้รับแคลอรีน้อยกว่านั้น 300−500 แคลอรี
- ข้อดี: เป็นวิธีการลดน้ำหนักพื้นฐานที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด และยืดหยุ่นในการเลือกกิน
คำแนะนำ:
ก่อนเริ่มการลดน้ำหนักหรือการเปลี่ยนรูปแบบการกินใด ๆ ที่เข้มงวด เช่น Keto หรือ IF ควร ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และ ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยและเหมาะสมกับสุขภาพและไลฟ์สไตล์ของคุณที่สุดครับ
สรุป :
การมีพริกแกงคีโตเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ เคร่งครัด กับคีโตไดเอทมาก ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับคาร์โบไฮเดรตต่ำที่สุดตามหลักการ ดังนั้นหากต้องการพริกแกงสำหรับคนทีปฎิบัติตามหลักของคีโตจีนิกส์แล้ว แม่น้อยมี "
พริกแกงเจ" ที่เข้าหลัการณ์ดังกล่าวคือ ปราศจากการปรุงแต่งด้วยแป้งและ น้ำตาล และไม่มีส่วนผสมของสีผสมอาหาร หรือ สารกันเสียใดๆ